ชื่อนางสาวรัตนติการณ์ พวงใบดี
ชื่อเล่นแหว๋ว
อายุ20ปี
กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร
คณะมนุษยศาสตร์ สาขา สารสนเทศศาสตร์ ชั้นปีที่ 2
เกิดวันที่29เดื่อนพฤศจิกายนพ.ศ.2535
ที่อยู่อาศัย 100หมู่8 บ้านนาฮี ตำบลนาฮี อำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร
วันพฤหัสบดีที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2555
เกร็ดความรู้เพือสุขภาพ
…นวดให้ผอม กินให้เผาผลาญ เคล็ดลับหุ่นสวยสมส่วน…
|
เรื่องของรูปร่างและสุขภาพ
คือสิ่งที่ผู้หญิงทุกเพศทุกวัยให้ความใส่ใจ
และส่งผลให้เกิดเทรนด์การดูแลรูปร่างและการกินเพื่อสุขภาพขึ้นหลายรูปแบบ
เทคนิคการลดน้ำหนักที่ไม่จำเป็นต้องอดอาหาร หรือพึ่งพาศัลยกรรม เพียงแต่ยึดหัวใจหลัก 2 ข้อ
นั่นคือการรับประทานอาหารอย่างถูกวิธีหรือที่เรียกว่า “โภชนาการบำบัด” และการนวดเพื่อให้เรือนร่างเข้ารูปทรงหรือ “การปั้นแต่งเรือนร่าง” ให้สวยเหมาะสม
นวดให้ผอม เคล็ดลับเฉพาะอยู่ที่เทคนิคการนวดละลายไขมัน
เป็นการนวดตามแนวกล้ามเนื้อ การไหลเวียนของโลหิต และน้ำเหลือง ช่วยให้ไขมันแตกตัว
พร้อมจะนำไปเผาผลาญ คือ ทั้งยังช่วยผลักดันเนื้อที่เป็นส่วนเกินให้กลับเข้าที่
ทำให้รูปร่างมีส่วนโค้งส่วนเว้า ผิวพรรณสดใส และยังช่วยให้ทรวงอกอวบอิ่มขึ้นได้ด้วย
โดยการนวนนั้นควรได้รับการนวดบ่อยครั้งในช่วงแรก
แล้วจะรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงหากนวดประมาณ 3-4 ครั้งภายใน 2 สัปดาห์
กินให้เผาผลาญ การรับประทานอาหารที่ถูกวิธีไม่ใช่การอดอาหารหรือรับประทานแบบนับจำนวนแคลอรี่
แต่ต้องเริ่มจากการเรียนรู้ระบบย่อยของอาหารแต่ละประเภท และรับประทานอาหารให้ครบ 6 หมู่
ในจำนวนที่เหมาะสมตามสัดส่วนการใช้งาน โดยเน้นให้มีปริมาณโปรตีนถึงระดับ
เพราะหากน้อยไปอาจส่งผลให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้ไม่เต็มที่ เช่น
มื้อเช้าควรรับประทานโปรตีนประมาณ ? ฝ่ามือ มื้อกลางวัน ?
ฝ่ามือ มื้อเย็น 1 ฝ่ามือ
หรือหากอยากรับประทานขนมเค้ก ก็เพียงตัดข้าวออกไปครึ่งหนึ่ง เพื่อแทนที่กัน
เป็นต้น โดยหลักการนี้เรียกว่า “บาลานซ์ฟู้ด” หรือรับประทานให้สมดุลกับการที่ร่างกายจะนำไปใช้ และไม่เกิดการสะสม
คือไปอ้วนนั่นเอ
ทำไงดีล่ะ … เมื่ออาหารที่เราทานส่วนใหญ่มีสารเคมีตกค้าง
|
ทุกวันนี้วัตถุดิบที่นำมาปรุงอาหาร ส่วนใหญ่มีสารเคมีตกค้าง เช่น
เนื้อสัตว์มีสารเร่งเนื้อแดง ผักมียาฆ่าแมลงและสารเร่งดอกผล เป็นต้น
เพราะฉะนั้นการล้างสารพิษด้วยสารอาหารจากธรรมชาติ
จะทำให้เราลดปริมาณสารเคมีเหล่านี้ได้ ทำให้เราห่างไกลจากโรคภัยอีกด้วย โดยสารอาหารที่จะแนะนำในวันนี้
มีหลายสถาบันวิจัยออกมาแล้วว่าสามารถล้างสารพิษได้ ดังนี้.-
1. สารสกัดจากงาดำ
|
ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
ควบคุมสุขภาพหลอดเลือดหัวใจ ลดการดูดซึมของคอเลสเตอรอล
ป้องกันโรคหัวใจและต้านมะเร็ง
|
2. สารสกัดจากโรสแมรี่
|
เป็นสมุนไรที่ชาวโรมันนำมาใช้ล้างพิษตั้งแต่โบราณแล้ว
ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยเพิ่มปริมาณเอนไซม์ล้างพิษ และต้านมะเร็งในร่างกายถึง 450 เท่าของปริมาณปกติในร่างกาย
|
3. สารสกัดจากบีทรูท
|
อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ เช่น
วิตามิน บี 1 บี 2 บี 3 บี 6 และวิตามินซี นอกจากนี้ยังช่วยล้างพิษที่ตับ
ถุงน้ำดี ไต และเป็นสารอาหารที่ช่วยในการสร้างเลือด และลดอาการท้องผูก
|
4. สารสกัดจากชาเขียว
|
ซึ่งมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ
และกำจัดสารพิษในร่างกายให้เร็วยิ่งขึ้น และยังป้องกันมะเร็งกระเพาะอาหาร ไต
ถุงน้ำดี ผิวหนังและปอด
|
5. สารกรีนบาร์เลย์
|
อุดมไปด้วยวิตามินเกลือแร่
กรดอะมิโนและเอนไซม์บำรุงสุขภาพถึง 17
ชนิด ซึ่งหนึ่งในนั้นมีเอนไซม์ที่สำคัญมาก
ในขบวนการกำจัดอนุมูลอิสระระดับเซลล์
ที่ช่วยชะลอความเสื่อมชราของทุกอวัยวะในร่างกาย
และทำให้ผิวพรรณสดใสมีชีวิตชีวาดูอ่อนวัยลง
|
6. กลุ่มวิตามินล้างพิษ
|
วิตามิน บี 1 บี 2 บี 3 บี 5 บี 6 บี 12 วิตามินบีรวมเป็นสารอาหารจำเป็น
ในกระบวนการล้างพิษของร่างกายในระดับเซลล์ ของทุกๆ อวัยวะทั้งในตับ
โดยทำหน้าที่เป็นโค-เอนไซม์ในปฏิกิริยาการล้างพิษ นอกจากนี้วิตามินบีรวม
ยังช่วยในขบวนการเผาผลาญโปรตีนและไขมันของร่างกายอีกด้วย
|
7. สารเบต้าแคโรทีน
|
วิตามินซี และอี
ช่วยกำจัดอนุมูลอิสระและสารพิษที่สะสมตามเซลล์ต่างๆ ช่วยขจัดพิษจากสารเคมีตกค้าง
ช่วยเสริมภูมิต้านทานเพื่อต่อต้านสารพิษในร่างกาย
|
8. แอปเปิ้ลไฟเบอร์
|
เป็นเส้นใยธรรมชาติที่ละลายน้ำแล้วพองตัว
ช่วยดูดซับไขมันคอเลสเตอรอล กลุ่มไขมัน และสารพิษ
โลหะหนักที่สะสมหมักหมมอยู่ในลำไส้และขับถ่ายออก
และยังช่วยป้องกันการเกิดนิ่วในถุงน้ำดีอีกด้วย
|
9. เมล็ดไซเลียม
|
เป็นแหล่งเส้นใยธรรมชาติที่ไม่ถูกย่อยสลายจะช่วยให้อุจจาระอ่อนนุ่ม
ทำให้สารพิษที่สะสมอยู่ในลำไส้ถูกขับถ่ายออกได้ง่ายขึ้น ช่วยลดอาการท้องผูก
ชำระล้างพิษในลำไส้ใหญ่ และป้องกันโรคทางเดินอาหาร
|
10. สารสกัดจากเคลป์
|
สาหร่ายจากท้องทะเลที่อุดมไปด้วยวิตามิน
เกลือแร่ และแร่ธาตุ ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ทำลายสารพิษต่างๆ
เช่นโลหะหนักและสารกัมมันตภาพรังสี ช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญไขมัน
จึงช่วยลดน้ำหนักได้
|
11. กระเจี๊ยบแดง
|
อุดมไปด้วย วิตามินซี
ช่วยขับปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะคล่อง ช่วยลดความเข้มข้นของเลือด ทำให้ระบบการไหลเวียนของเลือดดี
ช่วยลดความดันเลือด มีกรดซิตริค ซึ่งเป็นสารให้ความเย็นธรรมชาติ ช่วยลดไข้
ช่วยทำให้แผลหายเร็วขึ้น ช่วยบำรุงผิวพรรณ บรรเทาการเกิดสิว
และปัญหาเกี่ยวกับโรคผิวหนัง มีสารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติ
ป้องกันเซลล์ถูกทำลาย ช่วยป้องกันตับถูกทำลาย
|
ฐานข้อมูลออฟไลน์
ฐานข้อมูลออฟไลน์ (Offline Database) เป็นการนำคอมพิวเตอร์มาช่วยจัดเก็บสารสนเทศ จัดการระบบฐานข้อมูล และให้บริการภายในห้องสมุดเท่านั้น กล่าวคือผู้ใช้ห้องสมุดสามารถค้นข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้มีการเชื่อมโยงหรือติดต่อกับห้องสมุดอื่นๆ ซึ่งผู้ใช้ห้องสมุดจะถูกจำกัดแหล่งในการค้นหาข้อมูลที่ถูกบันทึกไว้ในฮาร์ดดิสก์ของคอมพิวเตอร์ภายในห้องสมุดนั้น หรือใช้ข้อมูลที่บันทึกในสื่อต่าง ๆ ที่ห้องสมุดจัดให้บริการ เช่น แผ่นดิสก์ ซีดี-รอม เป็นฐานข้อมูลออฟไลน์ที่นิยมในปัจจุบัน คือ ซีดี-รอม เนื่องจากเป็นฐานข้อมูลสำเร็จรูปที่มีการผลิตออกจำหน่ายอย่างแพร่หลายมีค่าใช้จ่ายไม่สูงมากนัก และค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้ในระยะเวลาสั้นด้วยเหตุนี้เองซีดี-รอม จึงเข้ามามีบทบาทในงานบริการของห้องสมุดอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งห้องสมุดประเภทวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะบอกรับเป็นสมาชิกฐานข้อมูลซีดี-รอม
การค้นหาข้อมูลซีดี-รอม
ในการค้นหาข้อมูลในซีดี-รอมนั้น ผู้ค้นต้องเลือกฐานข้อมูลที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องในสาขานั้น ๆ และต้องอาศัยดรรชนีเป็นตัวค้นหาบทคัดย่อ ซึ่งเก็บไว้เป็นข้อมูลประเภท ข้อความ(Text) แล้วจึงไปค้นหาในแผ่นซีดี-รอมที่มีบทความต้นฉบับอีกครั้ง ห้องสมุดบางแห่งให้ผู้ใช้ใช้ฐานข้อมูลซีดี-รอมด้วยตนเอง บางแห่งมีบรรณารักษ์หรือนักสารสนเทศเป็นผู้ค้นให้
ฐานข้อมูลออฟไลน์เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์
1ฐานข้อมูล Nursing & Allied Health ให้รายละเอียดทางบรรณานุกรม ทางด้านการพยาบาล และสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง เช่น สาธารณสุขศึกษา การตรวจเชื้อโรคในห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ ระเบียนการรักษาพยาบาล การเฝ้าระวังโรค ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1986 - 1994, 1997- 2000
2 ฐานข้อมูล Food Science
ให้ข้อมูลทางบรรณานุกรม และสาระสังเขป ของวารสาร มาตรฐาน สิทธิบัตรวิทยานิพนธ์และรายงานการประชุมฯ ด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีอาหาร โภชนาการ ชีวเทคโนโลยีและวิศวกรรมอาหาร
|
ฐานข้อมูลออนไลน์ ด้าน วิทยาศาสตร์และเทดโนโลยี่
1 iG Publishing: American Society of Health-Systems Pharmacist (ASHP)
ฐานข้อมูลหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-Book) ของ iG Publishing มีเนื้อหาครอบคลุมสาขาวิชาเภสัชศาสตร์ สาธารณสุข
วิทยาศาสตร์สุขภาพ เป็นต้น มีสมาชิกเป็นผู้เชียวชาญเกี่ยวกับองค์กรเภสัชกรรม เภสัชกร พยาบาลอาชีพเป็นสมาชิกอยู่ทั่วโลก สามารถ Copy, Print, Download,
2 Ebrary
ฐานข้อมูลหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-Book ) มีเนื้อหาครอบคลุมสาขาวิชาทางด้านแพทยศาสตร์ พยาบาล เภสัชศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นต้น จากหลายสำนักพิมพ์ทั่วโลก มีหนังสือมากกว่า 100 รายการ สามารถ Download, Copy, Print, มี Dictionary และแปลเป็นภาษาต่าง ๆได้ รวมถึงสามารถ Link ไปยังแหล่งทรัพยากรอื่น ๆได้อีกด้วย พร้อมเครื่องมือการใช้ต่าง ๆนภาษาต่าง ๆ ได้ พร้อมทั้ง Dictionary และ Function การใช้งานอื่น ๆ
ฐานข้อมูลหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-Book ) มีเนื้อหาครอบคลุมสาขาวิชาทางด้านแพทยศาสตร์ พยาบาล เภสัชศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นต้น จากหลายสำนักพิมพ์ทั่วโลก มีหนังสือมากกว่า 100 รายการ สามารถ Download, Copy, Print, มี Dictionary และแปลเป็นภาษาต่าง ๆได้ รวมถึงสามารถ Link ไปยังแหล่งทรัพยากรอื่น ๆได้อีกด้วย พร้อมเครื่องมือการใช้ต่าง ๆนภาษาต่าง ๆ ได้ พร้อมทั้ง Dictionary และ Function การใช้งานอื่น ๆ
3 Acedemic Search Premier
เป็นฐานข้อมูลที่มีเนื้อหาสหสาขาวิชามากที่สุดจากทั่วโลก
ไม่ว่าจะเป็นวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ คอมพิวเตอร์
ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ สถาปัตยกรรม จิตวิทยา ประวัติศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ นิเทศศาสตร์
(การแสดง การดนตรี) และอีกมากมาย
ครอบคลุมสาขาวิทยาศาสตร์
สังคมศาสตร์ ศิลปะศาสตร์และมนุษยศาสตร์จากวารสารประมาณ 8
,900 ชื่อ ให้บริการตั้งแต่ปี 2001- ปัจจุบัน
4 SpringerLink eJournal
Springer Verlag และสำนักพิมพ์ Kluwer จำนวน 1,130 ชื่อ ครอบคลุม 10 สาขาวิชาทางด้าน วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี
และเป็นฐานข้อมูลวารสารอิเล็กทรอนิกส์ที่ให้ข้อมูลเอกสารฉบับเต็มของวารสาร
อิเล็กทรอนิกส์ ที่จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ วิทยาศาสตร์สุขภาพ ข้อมูลตั้งแต่ปี 1997 - ปัจจุบัน
5 ACS:
American Chemical Society Journal
วารสารอิเล็กทรอนิกส์จากสำนักพิมพ์ ACM (The American Chemical Society) ครอบคลุมสาขาวิชาเคมีและสาขาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง มีวารสารให้บริการจำนวน 38 รายชื่อ เนื้อหาเอกสารประกอบด้วยรายการทางบรรณานุกรม บทคัดย่อ และเอกสารฉบับเต็ม ให้ข้อมูลย้อนหลังตั้งแต่ปี 1996-ปัจจุบัน
วารสารอิเล็กทรอนิกส์จากสำนักพิมพ์ ACM (The American Chemical Society) ครอบคลุมสาขาวิชาเคมีและสาขาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง มีวารสารให้บริการจำนวน 38 รายชื่อ เนื้อหาเอกสารประกอบด้วยรายการทางบรรณานุกรม บทคัดย่อ และเอกสารฉบับเต็ม ให้ข้อมูลย้อนหลังตั้งแต่ปี 1996-ปัจจุบัน
วันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
ประเภทของ search engine
Search engine
1. เว็บไซต์ Google
(www.Google.com) เป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการในการค้นหาข้อมูลในโลกของอินเตอร์เน็ต
โดยค้นหาข้อมูลจากข้อความ หรือตัวอักษรที่พิมพ์เข้าไป แล้วทำการค้นหาข้อมูล รูปภาพ
หรือเว็บเพจที่เกี่ยวข้องนำมาแสดงผล เว็บไซต์ Google ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้ใช้งาน
อินเทอร์เน็ตที่ต้องการค้นหาข้อมูล
2.ยาฮู (Yahoo!
Inc.) คือบริษัทผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตสัญชาติอเมริกันซึ่งประกอบไปด้วยเว็บท่า
เสริช์เอนจิน Yahoo! Directory, Yahoo! Mail, Yahoo! News, Yahoo!
Photos (ซึ่งในวันที่ 20 กันยายน ปี 2550 ได้โอนไปรวมเข้ากับ Flickr), ฯลฯ ยาฮู!
ก่อตั้งขึ้นโดยนักศึกษาปริญญาเอกสองคนจากมหาวิทยาลัยแสตนฟรอด เจอร์รี่ หยาง (Jerry Yang) และ เดวิด ฟิโล (David
Filo) ในเดือนมกราคมปี 1994 และเริ่มดำเนินกิจการในรูปแบบบริษัทครั้งแรกในวันที่ 2 มีนาคม ปี 1995 ปัจจุบัน ยาฮู!
มีบริษัทมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองซันนีเวล รัฐแคลิฟอร์เนีย
ประเทศสหรัฐอเมริกา
3.เอ็มเอสเอ็น (MSN) หรือ ไมโครซอฟท์ เน็ตเวิร์ก (Microsoft
Network) เป็นบริการทางอินเทอร์เน็ต โดยบริษัทไมโครซอฟ โดยเริ่มจากการให้บริการฮอตเมล และได้ขยายการบริการไปยังอื่น
เช่น เอ็มเอสเอ็นเมสเซนเจอร์ ที่ได้รับความนิยมสูง
จนล่าสุดได้เปลี่ยนชื่อเป็น วินโดวส์ไลฟ์ เมสเซนเจอร์
4.เอโอแอล ย่อมาจาก America Online, Inc เป็นบริษัทอเมริกันที่ให้บริการทางด้านมัลติมีเดีย
ของ Time WarnerAOL เป็นผู้ให้บริการข้อมูลทางเครือข่ายรายใหญ่ในสหรัฐอเมริกา
ให้บริการในรูปแบบของศูนย์ BBS และให้บริการเข้าใช้อินเทอร์เน็ตนับตั้งแต่ปี 1993 และนับเป็นศูนย์บริการเครือข่ายขนาดใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา
search engine
เสิร์ชเอนจิน (search
engine) คือโปรแกรมที่ช่วยในการสืบค้นหาข้อมูล
โดยเฉพาะข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตโดยครอบคลุมทั้งข้อความ รูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว เพลง
ซอฟต์แวร์ แผนที่ ข้อมูลบุคคล กลุ่มข่าว และอื่น ๆ
ซึ่งแตกต่างกันไปแล้วแต่โปรแกรมหรือผู้ให้บริการแต่ละราย.
เสิร์ชเอนจินส่วนใหญ่จะค้นหาข้อมูลจากคำสำคัญที่ผู้ใช้ป้อนเข้าไป
จากนั้นก็จะแสดงรายการผลลัพธ์ที่มันคิดว่าผู้ใช้น่าจะต้องการขึ้นมา ในปัจจุบัน
เสิร์ชเอนจินบางตัว เช่น กูเกิล จะบันทึกประวัติการค้นหาและการเลือกผลลัพธ์ของผู้ใช้ไว้ด้วย
และจะนำประวัติที่บันทึกไว้นั้น มาช่วยกรองผลลัพธ์ในการค้นหาครั้งต่อ ๆ ไป
ประเภท Search Engine
1. Keyword Index เป็นการค้นหาข้อมูล
โดยการค้นจากข้อความในWeb Pageที่ได้ผ่านการสำรวจมาแล้ว
จะอ่านข้อความ ข้อมูล อย่างน้อยๆ ก็ประมาณ ๒๐๐-๓๐๐ ตัวอักษรแรกของWeb Pageนั้นๆ โดยการอ่านนี้จะหมายรวมไปถึงอ่านข้อความที่อยู่ในโครงสร้างภาษา HTML ซึ่งอยู่ในรูปแบบของข้อความที่อยู่ในคำสั่ง Alt ซึ่งเป็นคำสั่งภายใน TAG คำสั่งของรูปภาพ
แต่จะไม่นำคำสั่งของ TAG อื่นๆ ในภาษา HTML และคำสั่งในภาษา JAVA มาใช้ในการค้นหา
วิธีการค้นหาของ Search Engine ประเภทนี้จะให้ความสำคัญกับการเรียงลำดับข้อมูลก่อน-หลัง
และความถี่ในการนำเสนอข้อมูลนั้น การค้นหาข้อมูล
โดยวิธีการเช่นนี้จะมีความรวดเร็วมาก
แต่มีความละเอียดในการจัดแยกหมวดหมู่ของข้อมูลค่อนข้างน้อย
เนื่องจากไม่ได้คำนึงถึงรายละเอียดของเนื้อหาเท่าที่ควร แต่หากว่าต้องการแนวทางด้านกว้างของข้อมูล
และความรวดเร็วในการค้นหา วิธีการนี้ก็ใช้ได้ผลดี
2. SubjectDirectories การจำแนกหมวดหมู่ข้อมูล Search
Engine ประเภทนี้ จะจัดแบ่งโดยการวิเคราะห์เนื้อหา รายละเอียด
ของแต่ละWeb Page ว่ามีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร โดยการจัดแบ่งแบบนี้จะใช้แรงงานคนในการพิจารณาWeb
Page ซึ่งทำให้การจัดหมวดหมู่ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของคนจัดหมวดหมู่แต่ละคนว่าจะจัดเก็บข้อมูลนั้นๆ
อยู่ในเครือข่ายข้อมูลอะไร ดังนั้นฐานข้อมูลของ Search Engine ประเภทนี้จะถูกจัดแบ่งตามเนื้อหาก่อน แล้วจึงนำมาเป็นฐานข้อมูลในการค้นหาต่อไป
การค้นหาค่อนข้างจะตรงกับความต้องการของผู้ใช้ และมีความถูกต้องในการค้นหาสูง
เป็นต้นว่า หากเราต้องการหาข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์ หรือWeb Pageที่นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ Search Engine ก็จะประมวลผลรายชื่อเว็บไซต์ หรือWeb Pageที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ล้วนๆ
มาให้
3. Metasearch Engines จุดเด่นของการค้นหาด้วยวิธีการนี้
คือ สามารถเชื่อมโยงไปยัง Search Engine ประเภทอื่นๆ
และยังมีความหลากหลายของข้อมูล แต่การค้นหาด้วยวิธีนี้มีจุดด้อย คือ
วิธีการนี้จะไม่ให้ความสำคัญกับขนาดเล็กใหญ่ของตัวอักษร และมักจะผ่านเลยคำประเภท Natural
Language (ภาษาพูด) ดังนั้น หากจะใช้ Search
Engine แบบนี้ละก็ ขอให้ตระหนักถึงข้อบกพร่องเหล่านี้ด้วย
การทำงานของ Search Engine
ประกอบไปด้วย ๓ ส่วนหลัก ๆ คือ
๑. Spider หรือ Web Robot จะเป็นตัวที่ทำหน้าที่เข้าสำรวจเว็บไซต์ต่างๆ
แล้วดึงข้อมูลเหล่านั้นมาอัพเดทใส่ในรายการฐานข้อมูล ส่วนมาก Spider มักจะเข้าไปอัพเดทข้อมูลเป็นรายเดือน
๒. ฐานข้อมูล (Database) เป็นส่วนที่เก็บรายการเว็บไซต์
ฐานข้อมูลที่ดีควรจะมีขนาดใหญ่เพียงพอที่จะรองรับกับการเติบโตของเว็บไซต์ในปัจจุบัน
การออกแบบฐานข้อมูลที่ดีก็เป็นส่วนสำคัญเพราะถ้าฐานข้อมูลออกแบบมาทำงานช้าก็ทำให้การรอผลนานและจะไม่ได้รับความนิยมไปในที่สุด
๓.โปรแกรม Search Engine มีหน้าที่รับคำหรือข้อความที่ผู้ใช้งานป้อนเข้ามา
แล้วเข้าค้นหาตามเว็บไซต์ต่างๆ ที่จัดเก็บไว้ในฐานข้อมูล
จากนั้นก็จะรายงานผลเว็บไซต์ที่ค้นพบให้กับผู้ใช้
การสืบค้นด้วยวิธีนี้นอกจากจะต้องมีระบบการสืบค้นข้อมูลที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพแล้ว
การกลั่นกรองผลที่ได้
เพื่อให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญของการสืบค้นข้อมูล
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)